วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2564

แหลมพรหมเทพ














          มาภูเก็ตแล้ว ถ้าไม่มาแหลมพรหมเทพ คือ ถือว่า ผิดมาก ๆ ดังนั้น ทริปนี้ทริปเดียว(2วัน) เราจึงมาเยือนแหลมพรหมเทพถึง 3 รอบ เพื่อให้ได้แสงแดดที่ต่าง และเหมาะสมในแต่ละมุมมองที่เราจะถ่าย 
          อย่างใครอยากถ่ายหน้าตัวเอง ควรมาช่วงเช้า เพราะแสงจะสาดออกไปในทะเล ส่วนถ้าใครอยากได้วิวแบบแสงแดดสีทอง สาดลงไปในน้ำทะเล อันนี้ต้องมาเย็นครับ แต่จะบอกว่า ช่วงเช้าคนจะน้อยกว่ามาก ๆ ครับ เพราะส่วนใหญ่เน้นมาช่วงเย็นกัน 
          อีกสิ่งที่ห้ามพลาด ถ้ามาแหลมพรหมเทพคือ ไอศกรีมกะทิ ที่ทางขึ้นจุดชมวิว คืออันนี้ทางร้านเคลมไว้ว่าอร่อยที่สุดในโลก ผมเลยลองชิม โอ้ว อร่อยจริง ๆ แถมตักเครื่องเองแบบไม่อั้นอีกด้วย 

iSSAMEe
06 APR 2021
 

หาดยะนุ้ย ภูเก็ต




           หาดยะนุ้ย หาดเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต ใครที่มาแหลมพรหมเทพ มักจะแวะ หรือ เลยมา ที่หาดยะนุ้ยด้วย เนื่องจากที่นี่ นอกจากจะคลื่นลมสงบแล้ว ยังมีน้ำที่ใส น่าเล่นเป็นอย่างมาก

          แต่อุปสรรค ที่ใหญ่ที่สุดของการเล่นน้ำที่นี่คือ โขดหินนั่นเอง มีโอกาสที่จะโดนโขดหินบาดเท้าสูงมาก 555 แต่เท่าที่สังเกตดู ผมเห็นนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ​ ใส่สน้อกเกิล ดำน้ำ ดูอะไรสักอย่าง คิดว่าอาจจะปะการังน้ำตื้นนะครับ ก็เป็นกิจกรรม ที่น่าสนุกดี 

iSSAMEe

06 APR 2021


อุโมงค์ต้นสน หาดไม้ขาว








         เอาจริง ๆ ที่นี่ไม่มีข้อมูลอะไรเลยครับ แต่มาตามรีวิวนึง ที่เค้ามาถ่ายรูปที่นี่เท่านั้นเอง ขับมาตาม GPS ที่เค้าให้พิกัดไว้ 

          ที่นี่ถ้าไม่ใช่ทางผ่าน ไม่ต้องมาก็ได้ครับ โคตรจกตา 5555 แต่ผมไหน ๆ ก็ผ่านอยู่แล้ว เลยแวะมาถ่ายรูปเล่นหน่อย แต่คนที่ชอบที่เงียบ ๆ ตามลำพัง ฟังเสียงคลื่นทะเล ก็ถือว่าที่นี่โอเคอยู่นะครับ แต่ต้องพกอาหารน้ำดื่มมาด้วย ถือว่ามาปิคนิคหาดส่วนตัวอะไรแบบนี้ 


iSSAMEe

06 APR 2021

เสม็ดนางชี พังงา














          เปิดปี 2564 มาด้วยทริปเล็ก ๆ ที่เชียงใหม่ แต่ยังไม่มีอารมณ์มาขีดเขียน blog เลย เพราะขี้เกียจ หมดพลังแรงใจมาก ๆ 
          แต่มาถึงตอนนี้ เริ่มมีอารมณ์มีหน่อย ๆ กับทริปล่องใต้ ภูเก็ตเกาะสวรรค์ ทริปนี้ใช้เวลาสองวัน แลนดิ้งที่ภูเก็ต นอนพักเอาแรง ก่อนจะเดินทางแต่เช้ามุ่งหน้าขึ้นทิศเหนือของเกาะ มายังเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา
          เสม็ดนางชี อยู่ที่ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงาครับ ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตราว 70 กิโลเมตร จุดที่เราถ่ายรูปมานั้นจะเป็นอ่าวพังงา ที่มีน้ำทะเลเงียบสงบ แวดล้อมไปด้วยเขาหินเขียวขจี สร้างความตื่นตาแก่นักท่องเที่ยว 
          พอดีว่าผมไปช่วงเช้าครับ คนเลยไม่เยอะมาก บวกกับเป็นวันทำงานด้วย เลยมีมุมถ่ายรูปได้สบาย ๆ โดยการจะขึ้นไปยังจุดนี้นั้น เราต้องเอารถไปจอดในจุดจอดรถ แล้วนั่งรถกระบะรับจ้างขึ้นไปคนละ 90 บาท เนื่องจากว่า ทางเป็นลูกรัง แคบและชันมาก ๆ ยิ่งช่วงฝนตก ก็จะเพิ่มความโหดของทางมากขึ้นไปอีก ดังนั้นใช้บริการพี่ ๆ รถรับจ้างครับ คือสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด แม้ระยะทางไม่ยาวมาก แต่ชันเสียวสันหลังแน่นอน 

iSSAMEe
05 APR 2021
 

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เส้นทางที่โคตรฟิน ขุนยวม แม่แจ่ม ทางหลวงหมายเลข 1263

ไร่กะหล่ำปลีของชาวม้งปางอุ๋ง




วิวข้างทาง ถนนเส้น 1263



ดอกบัวตอง บานชูคอรับลมหนาว 




         ไม่มีงานเลี้ยงไหนไม่มีวันเลิกรา การท่องเที่ยวของผมก็เช่นกัน หลังจากเที่ยวเตร่ชมเมืองสามหมอกอยู่สองสามวัน ก็ถึงเวลาที่ต้องออกเดินทางกลับ โดยวันนี้ตั้งใจใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1263 ขุนยวม ปางอุ๋ง แม่แจ่ม ครับ

          เส้นทางนี้ สิ่งที่ต้องระลึกเสมอ ดังนี้ครับ
          1. สภาพรถต้องดี เพราะตลอดเส้นทาง 100-200 กิโลเมตรบนป่าบนเขานั้นเราจะไม่พบอู่ซ่อมรถใด ๆ ทั้งนั้น 
          2. คนขับต้องมีทักษะที่ดี และอย่าใจร้อน เพราะทางจะไม่กว้างมาก บางช่วงถนนขรุขระ และมีโค้ง มีความชันเยอะ
          3.เตรียมขนมไว้เยอะ ๆ จะได้กินชิล ๆ ระหว่างทาง
          และข้อนี้สำคัญที่สุด คือ 4. เตรียมแบตเตอรี่ เตรียมเมมกล้อง เตรียมแคปชั่นเก๋ ๆ ไว้ เพราะคุณจะได้รูปบรรยากาศสองข้างทางสวย ๆ แน่นอน 
          
          ตลอดสองข้างทาง มุ่งหน้าแม่แจ่ม สิ่งที่ผมได้เห็นคือ ทิวเขาน้อยใหญ่เขียวขจี บวกกับทุ่งนา ทุ่งดอกไม้ ไร่กะหล่ำปลี รวมไปถึงดอกบัวตองข้างทางที่บานชูคอส่งท้ายสายฝน ต้นลมหนาว ในช่วงที่เราผ่านบ้านม้งปางอุ๋งแม่แจ่ม 
          เส้นทางนี้นอกจากความสวยงามแล้วยังได้พบกับวิถีชาวบ้าน ที่ออกมาทำไร่ ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์อีกด้วย
และไม่ใช่แค่นี้นะครับ การกลับเชียงใหม่ในเส้นทางนี้ยังต้องผ่านอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์อีกด้วย แน่นอนว่าหลาย ๆ คนรู้อยู่แล้วว่าดอยอินทนนท์มีดีอะไรบ้าง ส่วนตัวผมเองเลือกแวะถ่ายรูปที่น้ำตกวชิรธาร น้ำตกที่ใหญ่ และสวยงามมาก ๆ แห่งหนึ่งของเชียงใหม่ ครับ 

iSSAMEe
17 พ.ย. 2563

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า








          อีกหนึ่ง destination ที่แบบว่าห้ามพลาด เมื่อมาถึงแม่ฮ่องสอนก็คือ วัดพระธาตุดอยกองมู ​ครับ ที่นี่เดิมชื่อว่าวัดปลายดอย ตั้งอยู่บนดอยกองมู​นั่นเองครับ ก็เป็นที่มาของชื่อวัดในปัจจุบัน โดยจุดเด่นของที่นี่คือ มีเจดีย์คู่ ที่เป็นศิลปะไทยใหญ่ แลพม่าตั้งอยู่บนยอดดอย 
          ไฮไลท์ของวัดพระธาตุดอยกองมูคือ มีความสวยงามจับใจทั้งช่วงเวลากลางวัน และกลางคืน โดยในตอนกลางวันนั้นแนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ เพราะเราจะได้เห็นปุยเมฆ สายหมอก ที่เลื่อนลอยเหนือเมืองแม่ฮ่องสอน แต่หากเปลี่ยนมุมไปมองอยู่ด้านหลังก็จะเป็นเมฆหมอกลอยปกคลุมเหนือนภูเขาสูง น้อยใหญ่ อันเป็นสเน่ห์ของเมืองนี้ 
          ตกกลางคืน ถ้ามองลงไปด้านล่างเราจะเห็นแสงไฟระยิบระยับ ของบ้านเมือง ที่บ่งบอกว่า แม่ฮ่องสอนแม้จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ก็มีชีวิตชีวาไม่แพ้ใคร หันกลับมาที่เจดีย์ก็จะพบกับพระธาตุเจดีย์สีขาว ที่สะท้อนกับแสงไฟประดับประดาอย่างสวยงามมิรู้ลืม 

iSSAMEe
09 พ.ย. 2563
 

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

วัดสองจอง จองคำ จองกลาง จองความสุขที่สายตามองเห็นได้ เก็บไว้ในภาพจำว่า นี่คือ "แม่ฮ่องสอน"

มุมภาพที่ทำให้อยากไปแม่ฮ่องสอน 

          ก่อนอื่น บอกก่อนเลยว่า มุมถ่ายรูปด้านบนนี้ คือ รูปที่ทำให้ผมอยากไปแม่ฮ่องสอน โดยตั้งเป้าหมายว่า เราต้องมีรูปนี้จากกล้องของตัวเองให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่า ทำไมผมถึงอยากไปแม่ฮ่องสอนนักหนา ทั้งที่จริง ๆ แล้ว เป็นคนไม่ชอบนั่งรถแบบโค้งเยอะ ๆ เท่าไร เพราะเป็นคนอ้วกง่าย แต่ก็ไป และก็อ้วกจริง ๆ สำหรับการนั่งรถไปจังหวัดนี้ 
    





           มาเข้าเรื่องกันครับ สำหรับรูปภาพมุมที่ผมอยากไปนั้น จะอยู่ที่วัดจองคำ วัดจองกลาง วัดดังของเมืองแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัดจองคำนั้นเป็นวัดแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเลยนะครับ สร้างโดยพระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งท่านเป็นชาวไทยใหญ่ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของสถาปัตยกรรมของวัดนี้(รวมถึงวัดอื่น ๆ ที่แม่ฮ่องสอน) ที่จะแตกต่างจากวัดล้านนาทั่วไป 

          อีกวัดที่อยู่คู่กันคือวัดจองกลาง สองวัดนี้ไม่มีรั้วรอบขอบกันต่อกัน สามารถเดินไปมาหาสู่กันได้ โดยที่มาของชื่อวัดจองกลางนั้น มาจาก ที่ตั้ง ที่อยู่ระหว่างวัดจองคำ และวัดจองใหม่ จึงถูกเรียกว่าวัดจองคำ ซึ่งความสำคัญของวัดจองกลางคือ มีตุ๊กตาไม้แกะสลักแบบพม่าอยู่จำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมได้นะครับ
          วัดทั้งสองแห่งนี้ มีความสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน หากพอมีเวลา ลองไปทั้งสองช่วงเวลานะครับ จะให้ความรู้สีกต่างกันพอสมควร แต่สำหรับสายกิน กลางคืน ต้องห้ามพลาดครับ เพราะจะมีถนนคนเดินรอบ ๆ บึงจองกลางหน้าวัดครับ ที่นี่จะมีขายทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารอินเตอร์ทานง่ายพวก หมูปิ้ง ลูกชิ้นทอด เฟร้นซ์ฟรายด์​ 5555 มีบรรยากาศสวย ๆ มีโคมลอยที่ลอยลิ่วตามแรงลมและคำอธิษฐานของเจ้าของโคม 
          อ้อ ถ้าเป็นได้ ยังพอมีเงินเหลือ หรือไม่เดือดร้อนการเงินจนเกินไป จะแวะซื้อของสินค้าชาวบ้านหน่อยก็ดีครับ เช่นพวกสร้อยหินหยก เสื้อผ้าพื้นเมือง เสื้อยืด ของที่ระลึกต่าง ๆ พ่อค้าแม่ขายทุกคนใจดีครับ แต่ตอนนี้ก็ลำบากอยู่ เพราะเท่าที่ผมดู ตอนนี้ แม่ฮ่องสอนนักท่องเที่ยวน้อยมากครับ อะไรพอช่วยกันได้ เรามาช่วยกันนะครับ 

iSSAMEe
07 พ.ย.​ 2563