การเดินทางขากลับเรายังคงใช้สองแถว
ในราคา 15 บาทเช่นเคย นับว่าถูกมากๆ เมื่อเทียบกับระยะทาง
ขากลับเรามาลงรถที่สถานีรถไฟก่อนที่จะเดินกลับโรงแรมเพื่ออาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปวัดพระธาตุ
ซึ่งตอนนั้นเลย 16.30 มาแล้ว
คือถ้าเลยเวลานี้จะไม่สามารถขึ้นไปบนพระธาตุได้ แต่ผมเคยขึ้นมาสองครั้งแล้ว
ประกอบกับปีหน้าก็มีแพลนพาแม่ไปอีก ก็เลยไม่ได้ซีเรียสอะไรนัก เพราะที่ตั้งใจจริงๆอยากไปถ่ายรูปวัดพระธาตุตอนกลางคืนมากกว่า
นั่นคือเป้าหมายหลัก
หลังจากอาบน้ำเสร็จ
ผมก็เดินออกไปที่ท่าวังแล้วชั่งใจว่า รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือ สองแถวดี
คิดไปคิดว่า เลือกเดินครับ ใช่แล้วครับ เดิน เดินอีกแล้ว 4 กิโลเมตร
เหมือนครั้งก่อนที่ผมเคยเดินมาแล้ว
แต่ครั้งนี้สบายกว่าตรงที่เรารู้ทางแล้วแถมยังไม่มีแดดเหมือนครั้งก่อนด้วยเนื่องจากตอนนี้เวลาก็หกโมงกว่าแล้ว
ผมใช้เวลาเดินจากท่าวัง ผ่านเทศบาล ผ่าสถานีตำรวจ โรงเรียนกัลยาณีฯ
ผ่านกำแพงเมืองเก่า ผ่านศาล มาจนถึงหน้าวัดได้ ตอนนั้นโล่งมากๆ
ที่อย่างน้อยเขาอนุญาตให้เข้าไปถ่ายรูปได้(ตอนแรกไม่มั่นใจว่าเข้าได้ไหม)
สิ่งที่เห็นน่ะเหรอครับ คือความสวยงาม แสงไฟสีเหลืองส้ม
สาดส่องกับประติมากรรมอันอ่อนช้อยแบบศาสนาพุทธ
ตัดกับองค์พระธาตุสีขาวสะอาดสูงเด่นเป็นสง่า ทำให้ผมลืมความเหนื่อยไปเสียทั้งหมด
ผมถ่ายรูปมากมายที่นี่แต่ด้วยสมรรถนะของกล้อง รูปเลยใช้ได้จริงๆ ไม่กี่รูปเท่านั้น
แต่ก็เอาเถอะอย่างไรแล้วสายตาเราได้มาเห็นของจริง ในวันนี้ ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมชื่นชอบไปกว่านี้อีกแล้ว
แล้วเราจะกลับไปใหม่ๆ อย่างบ่อยๆ ครับ
iSSAMEe
7 ต.ค. 2558
7 ต.ค. 2558
ทำไม15บาทปกติผมนั่ง10บาท?
ตอบลบตัลหลกแล้นนน นี่นั่งจากนอกเมืองเชียวนะ ตั้งเกือบ 20 โล
ลบสำหรับคนต่างถิ่นก็เงี้ยะ ต้องทำใจ
ลบพูดแบบนี้ น่าปล่อยให้นั่งรถไฟเลยบ้านนาขอรับ
ลบ