วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Because the world is the biggest classroom. [ Kota Bharu , Malaysia ] Aug 13-14,2017



















          เดือนสิงหาคมนี้ เดือนแห่งวันของแม่ ครับ แน่นอนหลายคนถามผมอีกแล้วว่า แล้วพาแม่เที่ยวไหน ? คำตอบคือ เปล่าครับ ไม่ได้พาแม่ไปไหน แม่ไปตราด กับเพื่อนเค้า มีทริปก่อนเราอีก เหอ ๆ
          ส่วนตัวผมน่ะเหรอ ทริปนี้ขอลุยแผ่นดินเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย โดยทริปนี้เราเลือกเมืองโกตาบารู ในรัฐกลันตัน ที่ติดกับชายแดนไทย ตรง อ.สุไหงโกลกครับ
          การเดินทางเราเลือกใช้รถไฟตู้นอนปรับอากาศที่แสนเย็นสบาย แม้ว่า รถไฟจะเลทตั้งแต่ต้นทางถึง 3 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะพอถึงปลายทางเราเลทเป็น 4 ชั่วโมงครับ ฮืออออ T T
         ผลของการเลท 4 ชั่วโมงนั้น เกือบทำให้ผมเบนเข็มเปลี่ยนเส้นทางไปยังเมืองปีนัง ของมาเลเซียแทนด้วยซ้ำ แต่แล้วด้วยความมุ่งมั่น (จริง ๆ กลัวเงินไม่พอมากกว่าถ้าไปปีนัง) จึงเลือกที่จะเดินทางไปยังโกตาบารูเช่นเดิม
          เมื่อรถไฟมาถึงสถานีสุไหงโกลก เราก็ใช้วิธีนั่งมอไซวินไปยังด่านรันเตาปันยัง ระยะทางก็น่าจะสัก 500 เมตรได้ ก็จ่ายไป 40 บาท (บางทานว่าแพง แต่เอาเถอะครับเรามาเที่ยว อย่าคิดมาก ถือว่าเป็นภาษีที่มาขี้มาเยี่ยวบ้านเค้าละกัน) ที่ ตม. เราจะต้องประทับตราขาพร้อม + เขียนใบ ตม.6 ที่ฝั่งไทย จากนั้นเดินไปอีก 200 เมตรเห็นจะได้ก็จะเป็น ตม. ขาเข้าของมาเลเซีย ก็ประทับตราขาเข้าที่นี่เป็นอันเสร็จพิธีการข้ามแดนอย่างสมบูรณ์
          เมื่อได้ประทับตรามาแล้วเดินออกมาอีกสัก 50 เมตร ก็จะเจอป้ายรถเมล์ คนรถกันเยอะแยะเลยที่นี่ เราก็รอตรงนี้แหละ รอสาย 29 ค่ารถ 5.1 ริงกิต ลงสุดสายเลยที่ สถานีขนส่งของโกตาบารู เมื่อถึงที่นี่เราจัดแจงลากกระเป๋าเดินหาโรงแรมจ้า ... ซึ่งข่าวดี โรงแรมที่เราตั้งใจจะมาพัก ปิดกิจการ สาสสส ชีวิตดี๊ดีย์ ก่อนที่จะมาจบที่ รร. แห่งหนึ่ง ใกล้ ๆ สถานีขนส่ง ราคาเอาเรื่องที่ 890 บาท แต่ สภาพเหมือนกัน รร. ชั่วโมง 150 แถว ๆ เสาชิงช้า T T
          หลังจากนั้นเราก็ชาร์จแบตทั้งแบตมือถือ และแบตมนุษย์ เปิดหน้าต่างมาดูอีกที อ่าว ห่า มืดละก็เลยออกไปหาไรกิน ได้ร้านอาหารไทยในมาเลเซีย เชี้ยย ลองดิ รอไร ก็สั่งกะเพรากุ้งมา กับต้มยำรวม สรุป ได้เป็นผัดกะเพราโหระพา(ทำใจไว้ละ ตปท. จะได้แบบนี้อยู่แล้ว) แต่ต้มยำนี่สิ รสชาติมันหมือนซุปไก่มันฝรั่งแล้วบีบมะนาว ต่างกันแค่ไม่มีมันฝรั่งเท่านั้นเอง ก็เออ แดก ๆ ไป ชามละ 6-7 ริงกิตเอง ช่างแม่ม
          ที่นี่แค่ 20.00 บ้านเมืองก็เงียบสงบร้างผู้คนแล้ว ถ้าหวังจะมาตื๊ด ๆ กับสถานบันเทิงที่นี่ก็อย่าเลย เพราะมันไม่มี เนื่องจากคงเป็นข้อจำกัดทางศาสนาด้วย เพราะรัฐกลันตันนี่ ถือว่าเป็นรัฐที่มีความเข้มแข็งทางศาสนาอิสลามที่สุดรัฐหนึ่งในมาเลเซียเลย
          เราแวะซื้อขนม และนำที่เซเว่นเพื่อขึ้นไปกินบน รร. (เพราะในห้องไม่มี หมี มี แดด อะไรให้แดกได้เลย) ซึ่ง รร. ในโกตาบารูไม่มีอาหารฟรีสแบบประเทศอื่น ๆ  นะ อย่าคาดหวังว่าจะเจอ และแล้วคืนนี้ผมและพรรคพวกก็หลับเป้นตาย ในมาเลเซีย
          เช้าวันต่อมา วันนี้ เรามีเวลาครึ่งวัน ที่จะเดินเก็บภาพสถานที่ต่าง ๆ ผมเล็งสตรีทอาร์ตแห่งหนึ่งไว้ แต่ก็หาไม่เจอ เราก็เลยเดินไปเที่ยวจุดอื่น ๆ แทน ถามว่าตื่นตามั้ย ก็เฉย ๆ แต่ให้มาอีกมั้ยก็อยากมา เพราะยังไม่ได้ถ่ายสตรีทอาร์ตจุดที่เป็นแลนด์มาร์คเลย ส่วนขากลับในส่วนของการเดินทาง เราก็ทำทุกอย่างย้อนกลับจากตอนขามา นั่นคือ นั่งสาย 29 ไปลงด่านรันเตาปันยัง เดินข้าม ตม. มาเลเซีย ตม. ไทย แล้วนั่งรถไฟมาลงหาดใหญ่ เพื่อนอนพักก่อนจะบินกลับกรุงเทพฯ ในวันที่ 15 ครับ

หมายเหตุ
-อย่างที่บอกว่าที่นี่ เป็นชุมชนทมุสลิมที่มีความเป็นมุสลิมที่เข้มแข็งมากหรือเคร่งนั่นแหละ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่ไม่มิดชิด ทั้งผู้หญิง และ ผู้ชาย
-เช้า ๆ จะได้ยินเสียงละหมาด เสียงอ่านคัมภีร์ผ่านลำโพง ถือเป็นเรื่องปกติ ใครรับไม่ได้ รำคาญ รบกวนการนอน ขอให้เลี่ยง
-อาหารที่นี่ ถ้าอาหารท้องถิ่น ก็ไม่แย่นะ พอกินได้ แต่คงไม่ถูกปากคนภาคกลางเท่าอาหารจีน
-ถ้าคุณเก่งภาษาอังกฤษ แต่พูดมลายูไม่ได้ ก็อาจจะเอาตัวรอดยากกว่าคนที่พูดมลายูได้ แต่ ..... มีคนจำนวนไม่น้อยในตลาด ในชุมชนต่าง ๆ ที่ใช้ภาษาไทย
-นึกได้เพิ่มละจะมาบอก

iSSAMEe
19 ส.ค. 2560
       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น