สำหรับบทความนี้เราจะมีสรุปเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับไต้หวันกันอีกรอบ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ คนที่อยากเดินทางไปเที่ยวกันครับ
ไต้หวัน เป็นดินแดนที่มีลักษณะเป็นเกาะ ทิศเหนือติดประเทศญี่ปุ่น ทิศตะวันออกติดประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ทิศใต้ติดกับฟิลิปปินส์ มีเมืองหลวงอยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะ ชื่อกรุงไทเป และมีเมืองใหญ่อีกเมืองอยู่ทางตอนใต้สุด ชื่อว่าเมืองเกาสง
ทริปเรานี้ เราเดินทางไปยังเมืองหลวงของไต้หวัน กรุงไทเปคับ ก่อนไปเราทำการแลกเงินกับซุปเปอร์ริช สีเขียว ครับ ในเรท 1 ดอลล่าร์ไต้หวัน ต่อ 1.075 บาทไทย แต่ถ้าเอาแบบคร่าวๆ เวลาจะซื้อของ ผมจะตีเป็น 1-1 เลยครับ ง่ายดี
สิ่งที่เราเตรียมไปก่อนทริปนี้ คือ จองโรงแรมผ่านอะโกด้าครับ โดยขอแนะนำว่าให้เลือกโรงแรมที่ใกล้ ๆ สถานี Taipei Main Station เพราะว่า สถานีนี้จะมีบทบาทอย่างมาก ในระหว่างการตะลุยไต้หวันของคุณ ดังนั้น การนอนพักใกล้สถานี คุณจะประหยัดค่าเดินทางได้เยอะมาก ๆ ครับ
นอกจากนี้ ผมยังจองตั๋วรถไฟความเร็วสูง ผ่านเว็บของ KKDAY ซึ่งสะดวกสบายมาก ๆ สามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้อีกด้วย ส่วนของฝากอย่างขนมพายสับปะรด Chia Te เจ้าอร่อย ผมก็สั่งจองผ่าน Klook แล้วนัดรับที่สนามบินในวันเดินทางกลับครับ
เมื่อมาถึงไต้หวัน เราสามารถเดินทางเข้าเมืองไทเปได้ด้วย MRT สายสีม่วงครับ ซึ่งจะมีทั้งแบบหวานเย็น จอดทุกสถานี และแบบด่วนพิเศษ ที่จะจอดเฉพาะสถานีใหญ่ ๆ ครับ ในราคา จากสนามบินเถาหยวน ถึง Taipei Main Station ในราคา 160 เหรียญ
และที่ Taipei Main Station นี้เอง จะเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางทั้งทางราง และทางถนน ที่สามารถไปได้ทั่วไต้หวันเลยครับ ทางรางนี่ ก็มีทั้งรถไฟ TRA รถไฟความเร็วสูงTHSR และรถไฟในเมืองอย่าง MRT
MRT ของไต้หวันนั้น จะเชื่อมโยงกันทั้งระบบ เราสามารถซื้อตั๋วของแต่ละสาย แล้วต่อรถข้ามสายได้ในการจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว (ยกเว้นสายสนามบินเถาหยวนนะครับ) ซึ่งหากเรามีแผนที่ เราจะทราบได้เองว่าต้องลงที่สถานีไหน เพื่อต่อไปยังสายอื่น ๆ อันนี้ง่ายมากจริงๆ ครับ ไม่ได้ซุย
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ที่ช่วยได้มากในการเดินทางในไต้หวันคือ บัตร Easy Card หรือที่คนไต้หวันเรียกว่า โยวโย๋วข่า ครับ มีขายที่ 7-11 หรือ แฟมิลี่มาร์ท ถ้าลายปกติ จะอยู่ที่ใบละ 100 เหรียญ แต่ถ้าเป้นลายพิเศษ หรือเป็นแบบ 3 มิติพวงกุญแจ แบบที่ผมใช้ อันนี้จะใบละ 150 บาท ทั้งสองแบบยังไม่มีมูลค่าในบัตรให้นะครับ ต้องเติมเงินเพิ่มต่างหาก ใบละ เท่าไรก็ว่าไป โดยเติมครั้งละ 100 200 300 เป็นต้น โดยบัตรนี้ จะสามารถใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ใช้จ่ายค่า MRT TRA ค่าแทกซี่ ค่ารถเมล์ คือสะดวกมากๆ จริงๆ และที่สำคัญยังมีส่วนลดในบางบริการอีกด้วย
ค่าอาหารในไต้หวัน เอาในร้านสะดวกซื้อก่อนละกันครับ จะอยู่ที่ 65-90 เหรียญ ตีเป้นเงินไทยก็ 70-100 บาทบ้านเราได้ครับ ใกล้เคียงกับเซเว่นบ้านเรา แต่จะบอกว่าปริมาณ และออพชั่นต่าง ๆ เค้าเยอะกว่าข้าวกล่อง 7-11 บ้านเรานะครับ ส่วนในฟู้ดคอรืท ก็จะอยู่ที่ 100-250 เหรียญ แล้วแต่โลเคชั่น และประเภทอาหารครับ ส่วนร้านข้างทางก็ 25-100 เหรียญ ถือว่าใกล้กับบ้านเรามาก ๆ แต่ที่สำคัญคือ ร้านอาหารในไต้หวัน ไม่มีน้ำเปล่าบริการฟรีแบบบ้านเรานะครับ อาจจะต้องขอซื้อเพิ่ม หรือ รอออกมาซื้อที่ร้านข้างนอก หรือซื้อเข้าไปทานที่ร้านแทน
การซื้อของในร้านสะดวกซื้อนั้น จะไม่มีถุงพลาสติกให้นะครับ เว้นว่าถ้าซื้ออาหารอุ่นร้อน จะมีที่หิ้วตาข่าย ๆ ให้เราแทน
การเดินในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะริมถนน บันได บันไดเลื่อนของไต้หวันเราเน้นเดินชิดขวานะครับ ส่วนทางซ้ายเอาไว้ให้คนที่รีบๆ เค้าแซง และการข้ามถนนอันนี้ก็ซีเรียสเหมือนประเทศพัฒนาแล้วทั่ว ๆ ไป คือ ต้องข้ามที่ทางม้าล้ายเท่านั้น และรถยนต์เค้าก็จะให้ความเคารพตรงนี้ด้วยเช่นกัน
ภาษาอังกฤษของคนไต้หวันค่อนข้างดี ใครที่พูดอังกฤษได้ ไม่ต้องกลัวเรื่องการสื่อสารครับ ยกเว้นบางร้านอาหารจะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ แบบนั้นอาจจะลำบากหน่อย รวมไปถึงภาษาไทย เราสามารถหาได้ทั่วไปในไต้หวัน เช่นที่ตู้ซื้อตั๋ว MRT หรือตามร้านอาหาร ร้านของฝาก ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ ๆ คุณจะหาภาษาไทยได้ที่นั่นครับ
คนไต้หวันใจดีครับ ดูเฟรนลี่ และไม่ได้เยียดกะเหรี่ยงแบบเราเท่าไร อ้อ ฝากนิดนึง การนั่ง MRT ของไต้หวันนั้น เค้าจะมีที่นั่งสำรองสำหรับคนชรา เด็ก คนพิการ อันนี้คนที่นี่เค้าจะไม่แตะไม่นั่งกันเลยนะครับ เค้าจะสำรองไว้ให้คนที่ควรจะนั่งจริง ๆ เท่านั้น แต่เอาจริง ๆ คือ นั่งได้ครับ แค่ถ้ามีคนกลุ่มนี้ขึ้นมา เราก้ต้องคืนที่นั่งให้เค้าครับ
ไต้หวันยังมีอะไรให้สนใจอีกเยอะครับ เดี๋ยวถ้านึกได้เพิ่มเติม จะมาบอกอีกจ้า
