วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2561

I'm going to Malaysia lah. EP1 Salamat Datang ke Malaysia.

รถด่วนพิเศษ​ขบวนที่ 45 กรุงเทพ ปาดังเบซาร์ 




บรรยากาศตู้อื่น ๆ บนรถขบวนที่ 45 ที่เราโดยสาร 

ตู้เสบียง 



รถไฟฟ้า ETS ของประเทศมาเลเซีย 




วิวระหว่างทาง จากปาดังเบซาร์ ไป กัวลาลัมเปอร์ 

บรรยากาศ ใน KL Sentral

          สำหรับผมแล้ว การนั่งรถไฟคือเรื่องที่มีความสุข และมีความสนุกอย่างมาก ๆ ครับ แต่การนั่งรถไฟไปต่างจังหวัดก็ดูจะเป็นเรื่องปกติของผมไปแล้ว ดังนั้น จึงคิดว่าอยากนั่งรถไฟไปเที่ยวต่างประเทศสักครั้ง แต่ขอแบบง่าย ๆ เซฟ ๆ และปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่าถ้าโจทย์มาชัดเจนขนาดนี้ เห็นทีคงไม่พ้นประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซียแน่นอน
          สำหรับการนั่งรถไฟไปยังประเทศมาเลเซียก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรครับ แค่ จองตั๋วรถไฟทั้ง 2 ฝั่งให้เรียบร้อย (หมายถึงฝั่งขาจาก กรุงเทพ - ชายแดนไทย และ จากชายแดนไทย - กัวลาลัมเปอร์ )
โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
          รถจากฝั่งไทย แนะนำให้โดยสารรถขบวนด่วนพิเศษ ที่ 45 จากกรุงเทพ ปลายทางยังสถานีปาดังเบาซาร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะเป็นรถนอนปรับอากาศ ราคา 900 กว่าบาท อันนี้ จะออกจากกรุงเทพ 15.00 โดยประมาณ ถึงปาดังเบซาร์ ราว ๆ 9.50 (เวลาของประเทศมาเลเซีย) ฝนส่วนนี้สามารถโทรจองตั๋วล่วงหน้า หรือไปจองที่สถานีรถไฟใกล้บ้านได้ 90 วันก่อนวันเดินทาง
          ส่วนรถฝั่งมาเลเซีย เราจะต้องใช้บริการรถไฟที่หน้าตาเหมือนหัวจรวด หรือรถ ETS  ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าความเร็วปานกลาง (ประมาณ 140-150กิโลเมตร / ชม.) เราจะนั่งรถขบวนนี้ที่มีค่าโดยสารราวๆ 800 บาท จากสถานีปาดังเบซาร์ มึ่งหน้าสู่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ซึ่งเราจะลงกันที่สถานี KL Sentral ซึ่งเป็นสถานีหลักของระบบราง ในประเทศเค้า (เหมือน บางซื่อแกรนด์สเตชั่นบ้านเราในอนาคต) สำหรับการสำรองที่นั่งก็ทำได้ 30 วันก่อนวันเดินทาง ผ่านทางเว็บไซต์ของการรถไฟมาเลเซีย หรือ KTM นั่นเอง แต่ก็งง ๆ ในเรื่องระยะเวลาจองอยู่เพราะตอนผมจองก็จองล่วงหน้ามากกว่า 30 วัน ตัดบัตรเครดิตได้เลย สะดวกดี
          การเดินทางจากฝั่งไทย เราจะสามารถหาซื้อของกินบนรถที่มาเดินขายได้ตั้งแต่ช่วงกรุงเทพ จนถึง ครัวตู้เสบียงปิด ก็ราวๆ 1-2 ทุ่ม หรือจะไปกินอาหารอุ่นร้อนที่ตู้เสียงก็ได้นะครับ ราคาก็รู้ ๆ กัน ช่วงรถออกจากกรุงเทพก็จะเป็นที่นั่งก่อน พอพลบค่ำก็จะมีพนักงานมาปูเตียงให้
          ส่วนรถไฟฝั่งมาเลเซียหรือ ETS นั้น จะมีตู้เสียงอยู่เช่นกัน ประมาณกลาง ๆ ขบวน ( 1 ขบวนมี 6 ตู้โดยสาร) อาหารที่ขายเคยเห็นว่ามีอาหารร้อนด้วยแต่วันที่ผมไปมีแต่แซนวิชซะงั้น แต่ก็เอาวะ กินไป ชมวิวไป ฟินกับรถไฟไป แป๊บๆ 5-6 ชม. ก็ถึง KL Sentral  นับว่าเป็นการเหยียบแผ่นดินมาเลเซียอย่างเป็นทางการซะที  "กูมาถึงมาเลเซียแล้วโว้ยยยยยยย"
           อ่อ ลืมเล่าไปอย่าง ตม. ที่สถานีปาดังเบซาร์ จะอยู่ฝั่งของประเทศมาเลเซียนะครับ ดังนั้น ใครจะใช้บริการสถานีนี้ จะต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเสียก่อน ถ้ามีพาสปอร์ต ก็ต้องเดินไปตามช่องทางที่เจ้าหน้าที่พาไป เพื่อไปจ๊อบออกฝั่งไทยก่อน แล้วค่อยไปจ๊อบเข้ามาเลเซีย ซึ่งที่นี่การจัดการระบบค่อนข้างไม่ค่อยโอเค จะดูวุ่นวายมาก ดังนั้นพยายามอย่าแตกแถว เดี๋ยวจะหลงและสื่อสารสับสนกันได้

เกร็ดเล็ก ๆ
ที่สถานีปาดังเบซาร์ นอกจากคนไทยจะต่อรถไฟยังกัวลาลัมเปอร์แล้ว ยังมีบางส่วนที่ต่อรถไปยัง          บัตเตอร์เวิร์ธ เพื่อข้ามเรือเฟอรี่ไปยังเกาะปีนังอีกด้วย รวมถึงยังต่อรถที่กัวลาลัมเปอร์อีกทอด เพื่อไปยะโฮร์บารู และสิงคโปร์อีกเช่นกัน

iSSAMEe
17 ต.ค. 2561

         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น