วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กับการรถไฟแห่งประเทศไทย 2561











          สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาบันทึกความจำ ทริปรถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้ฟังกันครับ ซึ่งผมจะบอกว่า นี่คือการจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าที่ยากที่สุดสำหรับผม ยากกว่าจองช่วงเทศกาลเสียอีกครับ
          ปีนี้เค้าเปิดจองวันที่ 2 พฤศจิกายน ครับ เราตั้งตารอตั้งแต่ 8.30 เพื่อที่จะโทรไปหาคอลเซนเตอร์ให้ช่วยจองให้ ซึ่ง ทันทีที่ถึงเวลา ผมพยายามโทรอยู่มากกว่า  30 สาย จนถึง 11.00 ก็ยังโทรไม่ติด จนมาติดอยู่สายหนึ่ง แต่ผมก็ข้อมูลบัตรประชาชนผู้เดินทางไม่ครบ เลยอดจอง ต้องพยายามจองกันใหม่ จนคราวนี้ไม่พลาด จองได้ครบ ทั้ง 5 ที่นั่ง แม้ว่าจะพลาดเป้าหมายรถแอร์ก็ตาม แต่อย่างน้อยปีนี้เราก็ได้นั่งรถไฟไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กันแล้ว
          หลังจากจองตั๋วเสร็จ เราก็รอให้ถึงวันเดินทาง วันที่ 24 พฤศจิกายน ครับ เราได้นั่งรถไฟตู้ที่ 7 จากทั้งหมดราวๆ 16 ตู้ ก็อยู่กลางขบวนพอดี ถ่ายรูปไปด้านหน้าก็สวย ด้านหลังก็งาม
          วันนี้ขบวนรถล่าช้าไป 31 นาที ตั้งแต่ต้นทาง พอขึ้นรถมาประจำที่นั่งที่ระบุไว้ในตั๋ว สักพักก็มีเจ้าหน้าที่มากล่าวต้อนรับ และ เล่นเกมเล็กน้อยชิงรางวัล เป็นการกระตุ้นความสนุกสนานในยามเข้า
          ใช้เวลาไม่นาน ขบวนรถก็ผ่านจุดที่เคยเป็นทุ่งดอกทานตะวัน ซึ่งปีนี้ไม่มีแล้วนะครับ กลายเป็นว่าจุดแรกที่รถจะจอดคือ กลางเขื่อนฯ โน่นเลย ตรงกลางเขื่อนนี่ ตอนแรกนึกว่าจะร้อน เอาเข้าใจ ลมเย็นสบายมาก ถ้าจอดนานๆ อาจหลับรอได้ นักท่องเที่ยวส่วนมาก ก็จะลงไปถ่ายรูปกันตรงนี้แหละครับ
          รถจะจอดตรงสะพานกลางเขื่อนฯ 30  นาทีครับ จากนั้นจะมาสับเปลี่ยนหัวรถจักรที่สถานีโคกสลุง ซึ่งเดี๋ยวนี้เค้าก็ไม่ได้มาจอกเปล่าๆ แบบสมัยก่อนแล้ว แต่เค้าจอดแล้วให้นักท่องเที่ยวลงไปช้อปสินค้าพื้นบ้านที่พ่อค้าแม่ขายนำมาจำหน่ายอีกด้วย
          เมื่อรถออกจากสถานีโคกสลุง จะวิ่งย้อนกลับมาทางเดิม ผ่านตัวเขื่อน มาจอดที่ป้ายหยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์​ ราวๆ 3 ชั่วโมง ให้พวกเราได้หาอะไรทาน และท่องเที่ยวตามกิจกรรมที่แต่ละคนสนใจ เช่น ขับรถกอล์ฟ นั่งรถรางชมวิวสันเขื่อน ไหว้พระ ให้อาหารปลา ทานอาหาร เป็นต้น
          15.30 เวลานัดหมาย เวลาที่เราจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพกันแล้ว ตอนรถไฟออก ประทับใจพ่อค้าแม่ค้า ที่มาส่ง ยกมือบ๊ายบายรถไฟของพวกเราอีกด้วย  น่ารักไปอีกแบบ



สำหรับบางคน การเดินทางไม่ใช้แค่มุ่งสู่ปลายทาง แต่ประสบการณ์ระหว่างทาง คือสิ่งสำคัญ
         
           ไม่ได้ดูเวลาว่า รถมาถึงกรุงเทพตรงเวลามั้ย แต่มองรวมๆ ก็น่าจะไม่ได้ดีเลย์อะไรมากนัก ถ้าให้ผมสรุปทริปนี้นะ ชอบนะครับ ตามประสาคนบ้ารถไฟ แต่เคืองเรื่องการจองตั๋วยากมากกกกกนี่แหละ รวมถึงการพ่วงรถแอร์ที่น้อยมาก ๆ ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ถ้าการรถไฟฯ มีโอกาสได้เห็นข้อความนี้ ก็รับไว้พิจารณาด้วยนะครับ
          ใครสนใจทริปเขื่อนป่าสักฯ​ ทางรถไฟนำเที่ยว บอกเลยว่า คงต้องรอปีหน้าแล้ว เพราะปีนี้ที่เปิดวิ่ง 20  เที่ยวก็เต็มครบทุกเที่ยวแล้ว ใครอยากไปคงต้องใช้บริการรถไฟปกติแล้วครับ ซึ่งเค้าก็ไม่ได้จอดกลางเขื่อนให้ด้วย นอกจากนี้การรไฟฯ ก็ยังมีทริปท่องเที่ยวอื่นๆ อีก โดยสอบถามรายละเอียดการเดินทางได้ที่ 1690 ครับ

iSSAMEe
25 พ.ย. 2561

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น