วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ต่อลมหายใจ ด้วยรถไฟ ซักครั้ง




























       เชียงใหม่ทริปนี้ ผมอาจจะแยกลงซักหลายรอบหน่อยนะครับ เพราะรูปเยอะมาก ซึ่งโพสแรกนี้ ผมจะโพสเกี่ยวกับการเดินทางโดยรถไฟ ในมุมมองที่ผมชื่นชอบครับ(คนอื่นอาจไม่ชอบ) สำหรับเส้นทางรถไฟสายเหนือ ตั้งแต่กรุงเทพ จน สุดปลายทางที่สถานีเชียงใหม่นั้น จะมีระยะทางรวม 751 กม. ทริปนี้ผมเลือกเดินทางด้วยรถด่วนขบวนที่ 51 กรุงเทพ เชียงใหม่ครับ ซึ่งเป็นรถเที่ยวสุดท้ายที่จะเก็บผู้โดยสารในเส้นทางสายเหนือ เพราะมีกำหนดออกจากกรุงเทพ ในเวลา 22.00 น. ครับ แต่ออกจริงๆก็ 22.30 โน่นแน่ะ สำหรับความคิดของผมการชมวิวในเส้นทางสายเหนือ ช่วงที่สวยที่สุดก็คือ ช่วง สถานีเด่นชัย-แก่งหลวง-บ้านปิน ครับ ช่วงนี้ทางรถไฟละเลียบไปกับแอ่งน้ำธรรมชาติอย่างแก่งหลวงที่ลัดเลาะไปตามชายเขาขนานไปกับรางเหล็กสุดลูกหูลูกตา

       หมดจากช่วง สถานีเด่นชัย-แก่งหลวง-บ้านปิน อีกช่วงหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้กันก็คือ ช่วงสถานีแม่ตานน้อย - สถานีขุนตาน ช่วงนี้จะมีหุบเหวลึกพอสมควร รถไฟวิ่งผ่านปากเหวและยอดไม้สูงหลายต่อหลายครั้ง ที่แน่ๆ ก็มีสะพานคอมโพสิต สุดคลาสสิค ที่แฟนพันธุ์แท้รถไฟหลายๆท่านต่างหวังว่าจะได้พิชิตสะพานโครงเหล็กแห่งนี้ให้ได้ซักครั้ง แต่สำหรับผมเอง ขอบายนะครับ ผมเจี๋ยววววว!!!! ปุเรงๆ มาเรื่อย รถไฟก็จะลอดอุงโมงค์ขุนตานครับ ซึ่งศักดิ์ศรีของอุโมงค์แห่งนี้ก็คืออุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดประเทศไทย และยังทำหน้าที่เป็นตัวกั้นอาณาเขตระหว่างจังหวัดลำปางและลำพูนอีกด้วย

      แต่เป็นที่น่าเสียดาย เมื่อถึงสถานีขุนตาน อันเป็นแลนด์มาร์คของทางรถไฟสายเหลือ สายฝนดันเทกระหน่ำลงมาซะงั้นผมก็เลยถ่ายรูปได้ไม่ถนัดถนี่เท่าไร เสียดาย!!!!!!!  สะพานทาชมพูอันสวยงาม ก็อดที่จะถ่าย แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อว่ายังง๊ายยยังไง ผมต้องได้นั่งรถไฟมาเชียงใหม่อีกอย่างแน่นอน แต่จะเมื่อไร อะไรยังไง กับใคร อันนี้ไม่รู้ว่ะ 555 ก็รอดูต่อไปนะครับ ... ^^

iSSAMEe





วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คิดถึงกันมั้ย ...



   
      กลับมาแล้วครับ กลับมาแล้ว กลับมาพร้อมกับความอิ่มอกอิ่มใจของผม ที่ได้พาแม่ไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และพาแม่นั่งเครื่องบินครับ ทริปนี้ เราเหนื่อยกับการเดินทางและการท่องเที่ยวพอสมควร ยังไงเดี๋ยวขอพักเหนื่อยซักแปบ แล้วเลคียร์งานแปบนึง ยังไงจะมาอัพเดทความสุขผ่านบล๊อคนี้ให้เพื่อนๆได้ชมกันครับ

iSSAMEe

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

The moon from someone to someone.

Light from the dark.

          This is the moon from someone . It very very nice. I get it when i got up at the morning. It's make today is my happiness day.





หลับตาลงยังรู้สึก ท่ามกลางความอ้างว้างในหัวใจ
ค่ำคืนยาวนาน กับความเดียวดาย และลมหายใจที่ว่างเปล่า

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล มีคำหนึ่งคำจะพูดไป
ให้เธอได้รู้ จะแทนความหมายความห่วงใย ฉันคิดถึงเธอ

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล มีคำหนึ่งคำจะพูดไป
ให้เธอได้รู้ จะแทนความหมายความห่วงใย ฉันคิดถึงเธอ

ก็ฉันมีเพียงเธอ



หลับตาลงยังรู้สึก ท่ามกลางความอ้างว้างในหัวใจ
ค่ำคืนยาวนาน กับความเดียวดาย และลมหายใจที่ว่างเปล่า

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล มีคำหนึ่งคำจะพูดไป
ให้เธอได้รู้ จะแทนความหมายความห่วงใย ฉันคิดถึงเธอ

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล มีคำหนึ่งคำจะพูดไป
ให้เธอได้รู้ จะแทนความหมายความห่วงใย ฉันคิดถึงเธอ

ก็ฉันมีเพียงเธอ

...อ้างอิง http://sz4m.com/t4201


iSSAMEe

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สุขได้ไม่นาน เดี๋ยวมันก็ทุกข์ใจ มียิ้ม มีร้องไห้ มีปวดร้าว

CR ภาพ จาก Page ภาพถ่ายตลก



         ทำไมผมรู้สึกเหนื่อยจังเลย บางครั้งก็รู้สึกว่ามีแรงเดินต่อ แต่บางครั้งก็เจอเข็มมากมายนับร้อยนับพันเล่ม ที่ทิ่มแทงเท้าผมระหว่างทางเดิน ผมเจ็บจังเลยครับ...ผมเจ็บจังเลย ผมอยากร้องไห้ ผมจะทำยังไงดี แม้แต่อยู่เฉยๆ เข็มก็ยังแทงให้เลือดผมต้องไหลนองออกมาอีก ยิ่งเดินก็ยิ่งเจ็บ หันหลังก็มีเหวรออยู่ ทางเลือกของผมอยู่ที่ไหน ใครก็ได้บอกที ...

          แต่ก็เหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้ง บางทีที่ผมเหนื่อย จนเกือบจะหยุดเดิน มันเหมือนมีอะไรบางอย่าง บอกผมว่า เดินต่อเถอะ อย่ามัวแต่เจ็บเท้า ชีวิตมันไม่ได้ตั้งอยู่บนปุยนุ่น เราจะเดินอย่างสบายตลอดไปคงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็อีกแหละ ซักพักเลือดก็ออกอีก แต่ใจไม่รักดีของผมก็ดันสู้ซะด้วย ไม่ยอมหยุดเดิน มุ่งหน้าจะเดินต่ออยู่นั้นแหละ

          ได้โปรดเถอะครับ ใครก็ได้ บอกผมหน่อย ผมควรจะทำยังไง เดินหน้า หยุดเดินแล้วอยู่เฉยๆ หรือถอยหลัง ผมเลือกไม่ได้เลย เพราะทั้งสุขและทุกข์มันดันมาแบบสลับกันไปมา จนไม่รู้แล้วว่า อะไรกันแน่ คือสิ่งที่ทำให้ผมหายใจต่อไปได้
         

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

นครปฐม หมายมั่นขอพร ให้ตัวเองและใครซักคน




















          เมื่อวานนี้ครับ 18 05 56 เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมได้เดินทางแบบกระทันหันครับ นั่นก็คือ ไปไหว้องค์พระปฐมเจดีย์นั่นเอง วันนี้ผมใช้รถไฟในการเดินทางเช่นเคย แต่วันนี้เราเริ่มต้นกันที่สถานีรถไฟบางบำหรุครับ

          ที่สถานีรถไฟบางบำหรุ ผมเดินเข้าไปขอตั๋วฟรี 0 บาท เดินทางได้เลยไม่ต้องรอข้ามชาติแบบแอร์เอเชีย ฮ่าๆๆๆ วันนี้โดยสารไปกับขบวน 251 บางซื่อ ประจวบครับ วิ่งมาแบบสั้นๆ 4 คัน เมื่อขึ้นรถไป ผมก็เจอกับความวินเทจของที่นั่งครับ แต่ที่พิเศษคือรถขบวนนี้โล่งมาก เหมาะกับการเดินทางในวันแดดอ่อนแบบนี้สุดๆ ในใจตอนนั้น แทบจะนั่งต่อไปลงหัวหินกันเลยทีเดียว

          นั่งมาไม่นาน ก็ถึงสถานีนครปฐมครับ ระหว่างนี้ก็ตัดสินใจว่าจะกินข้าวก่อนหรือจะไหว้พระก่อน สุดท้าย เลือกไหว้พระก่อนครับ ไหว้พระ เตร็ดเตร่ถ่ายรูป กราบขอพรพระร่วง ซักแบบก็ลงมากินข้าวหมูกรอบ มีสองร้านให้เลือกครับ ผมเลือกกินร้านที่คนน้อยกว่า เพราะ ร้านคนเยอะ ไม่มีหมูกรอบให้ผมกินครับ น่าจะหมดนั่นแหละ ที่ร้านผมสั่งข้าวหมูกรอบ 1 จาน ติ่มซำ 2 ถาด ก็ซัก 6 ลูกได้ครับ อร่อยดีเหมือนกัน และก็ต้องขอขอบคุณเจ้าถิ่นนะครับ ที่ปารถนาดี แนะนำให้ผมมากินที่นี่ ^^

           กินเสร็จ ก็เดินกลับไปที่สถานีรถไฟ ซึ่งทางสถานีบอกว่า สี่โมงเย็นค่อยมารับตั๋วเข้า กทม. ซึ่งตอนนัี้น เพิ่ง สามโมงเย็นเองเลยลังเลนิดหน่อยว่าเอาไงดี กลับรถทัวร์ดีมั้ย แบตโทสับก็จะหมด เพื่อนคุยก็ไม่มี เอาไง ก็เลยนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แปบเดียวทางสถานีก็ประกาศให้คนที่จะเข้า กทม ไปรับตั๋วฟรีได้ แต่รถขบวนนี้เข้าธนบุรีนะครับ ไม่ได้ไปหัวลำโพง รอขบวนหัวลำโพงไม่ไหวครับ มาตั้งเกือบ 6 โมงแน่ะ
           รอไม่นานหลังจากรับตั๋ว รถธรรมดาที่ 254 จากหลังสวนก็มาครับ ขึ้นไปรถก็ว่างตามแบบฉบับรถสายหลังสวน หาที่นั่งกันตามสะดวก นั่งไป คิดอะไรไป แปบเดียว รุถก็มาถึงที่หยุดรถจรัญสนิทวงศ์ครับ ผมลงที่นี่ก่อนจะต่อรถเมล์กลับบ้าน
           วันนี้เป็นอีกวันที่ผมรู้สึกสนุกกับการเดินทางมากๆครับ ได้ไปในที่ๆสบายใจ ได้ไหว้พระทำบุญขอพรเผื่อคนที่เรามีมิตรไมตรีต่อกัน ไว้กลับจากเชียงใหม่ ต้นเดือนหน้า เจอกันที่ อยุธยานะครับ ...

iSSAMEe

วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

The sun and the moon are represents my heart.


             ถ้าผมมีใครซักคน ที่เราต่างคนต่างรอคอยซึ่งกันและกัน มีใครซักคน ที่เราอยากทำกิจกรรมบางอย่างร่วมกัน วันนี้ ผมคิดออกอย่างหนึ่งครับ ว่าถ้าผมมีใครซักคน ที่ต้องอยู่ห่างกันกับผม ผมจะชวนเค้านั่งดูพระอาทิตย์หรือไม่ก็พระจันทร์ด้วยกันครับ เพราะมันเป็นสสารแค่สองสิ่งในจักรวาลอันกว้างนี้ ที่เราสามารถมองเห็น และเล่นกับมันได้พร้อมๆกัน หรือในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะไกลกันแค่ไหน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์สำหรับเราทั้งสองก็ยังเป็นดวงเดียวกัน เราก็จะใช้สองสิ่งนี้ เป็นตัวเชื่อมเราเข้าหากันครับ ^ ^

 
             อยากรู้จังว่า จะมีใครซักคน อยากจะนั่งมองพระอาทิตย์ พระจันทร์ ไปพร้อมๆกับเรามั้ยนะ T T

iSSAMEe

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

T T


บางที ภาพที่คนเห็นว่าผมหัวเราะ ผมยิ้ม ผมมีความสุข จะมีใครรู้มั้ยว่าข้างใน ผมอาจกำลังรู้สึกเจ็บกับอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้ เรื่องราวบางเรื่องมันก็เหมือนฟ้าที่ผ่าลงมาที่กลางความรู้สึก แต่ทำไงได้ นี่มันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เราไม่สามารถห้ามได้นี่นา ....


iSSAMEe