วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ส ง ข ล า ดิ น แ ด น ที่ ท ำ ฉั น ต้ อ ง ม น ต์ ม ห า เ ส น่ ห์ E P 3 ถ น น น า ง ง า ม ส ว ย ดุ จ น า ง ง า ม













          วันที่สองของการชมเมืองสงขลา ผมก็ยังคงใช้วิธีเดิน ในการสำรวจเมืองเก่าแห่งนี้ ระยะทางวันนี้ จากโรงแรมมายังถนนนางงาม ประมาณ 2.5 กิโล เห็นจะได้ คือเดินตัดจากฝั่งทะเลอ่าวไทยมายังฝั่งทะเลสาบสงขลานั่นเอง สำหรับคนต่างถิ่นอย่างผม ผมว่ามันชิลๆ เพราะทุกก้าวที่เดินไปข้างหน้ามันคือความแปลกใหม่ของนักเดินทางอย่างผม
          เดินมาเรื่อยๆ ก็ยังคงมีละอองฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะ แต่นั่นไม่ทำให้ผมย่อท้อ จนกระทั่งมาพบร้านก๋วยเตี๋ยวโกแบน อันเลื่องชื่อ ก็เป็นอันว่ารู้กันว่าใกล้จะถึงตัวถนนนางงามแล้ว ผมรู้สึกปลาบปลื้มเล็กน้อยที่ทำภารกิจเดินสำรวจเมืองได้สำเร็จอีกแล้ว พร้อมทั้งตั้งใจว่าถ้าถ่ายรูปเสร็จเมื่อไรจะกลับมาลองชิมก๋วยเตี๋ยวร้านโกแบนเสียหน่อย
          จุดที่ทุกคนเมื่อมาถนนนางงาม แล้วห้ามพลาดที่จะถ่ายรูปคือ รูปภาพร้านน้ำชาฟุเจา (ผมจำชื่อผิดเปล่าไม่รู้) ซึ่งหลายๆท่านอาจคิดว่านี่คือ street art เพียงแห่งเดียวในสงขลา จริงๆแล้ว คือ ไม่ใช่นะครับ มันมีสงแห่ง อีกแห่งหนึ่งอยู่ซอยย่อยแห่งหนึ่งในย่านนางงามนี่แหละ เป็นรูปสาวๆยุคโบราณกำลังเล่นอุปกรณ์สมัยใหม่ อย่างไอโฟน ไอแพดกันอย่างสนุกสนาน
          ตลอดสองข้างทางของถนนนางงาม ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก มันไม่ได้ดูสวยงามอลังการอย่างที่คิด แต่ความเก่าแก่ท่ามกลางความเงียบสงบมันทำให้ผมรู้สึกว่าเออ เมืองนี้มันเจ๋งดีว่ะ ทุกอย่างรอบตัวมันดูมีคุณค่าไปหมด รู้สึกทำใจยากที่จะต้องจากออกมา
          เมื่ออิ่มใจกับบรรยากาศแล้ว แน่นอนว่าต้องมาอิ่มกายกับก๋วยเตี๋ยวโกแบนด้วย เดิมทีจะสั่งเส้นเล็ก แต่หมดครับ เลยต้องเลือกหมี่เหลืองแทน ได้มา 1 ชาม ราคา 50 บาท แอบแพง แม้จะเป็นพิเศษก็ฌถอะ จุดเด่น ของร้านนี้คือ เส้น จะลวกมาเปล่าๆ ส่วนเครื่องเคราอื่นๆทั้งหมดไม่ว่าจะลูกชิ้นต่างๆหรือกระดูกหมูต้มเปื่อยๆ จะถูกแยกมาในอีกชามพร้อมน้ำซุป ที่รสชาติอ่อนๆ ใครที่ชอบอาหารรสจัดหรือคุ้นเคยกับก๋วยเตี๋ยวเมืองกรุง อาจจะไม่ถูกปากนัก แต่มันก็ต้องกินแหละเนอะมาถึงบ้านเค้าแล้วนิ
          เสร็จจากภาระกิน เราก็เดินออกมาที่ถนนใหญ่ เพื่อหารถตุ๊กๆกลับ โรงแรม แต่โชคร้ายที่ฝนตกลงมาก่อนทำเอาผมเปียกไปทั้งตัว ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีดครั้ง ก่อนเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อขึ้นเครื่องบินกลับ กรุงเทพ นับว่าเป็นอีกทริปที่ทรหดสุดๆ และแน่นอนว่า เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพได้สองวัน อาการป่วยก็ถามหาผมทันที แต่ถามว่าเข็ดไหม ?    ไม่เลย   มองว่า แม่งโคตรมัน สนุกสุดๆ แล้วเจอกันใหม่ท่ามกลางสายฝน ในทริปหน้า กับทริปเขาหลัก พังงาครับ

iSSAMEe
28-ส.ค.-2558

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น