วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

จากนครพิงค์เชียงใหม่ถึงหริภุญชัยลำพูน ลานบุญนครล้านนา ตอนพิเศษ เมื่อฉันต้องนั่งเครื่องบินในวันที่อากาศเลวร้าย มันทำให้ฉันกลัวเครื่องบิน









       แอบเม้านิดนึงครับ ตอนขากลับ นั่งเครื่องบิน นั่งมาหลายครั้ง ตกหลุมอากาศมาก็หลายรอบ แต่วันนั้น เป็นการนั่งเครื่องบินที่กลัวที่สุดในชีวิตครับ วันนั้นหลังจากเครื่องไต่ระดับได้ สัญญาณเข็มขัดดับ พนักงานกำลังจะออกเสิร์ฟของ จู่ๆ ก็เข็นกลับแ ล้วทันใดนั้น เครื่องก็โยกไปโยกมา เซไปทางซ้าย และหน้าเครื่องไม่เชิดทำมุม 3 องศา แบบที่เคย วันนั้นเครื่องทำแนวระนาบกับพื้นเลยครับ ผมเลยรู้สึกอึดอัดเพราะไม่เคยเจอแบบนี้เครื่องเซเอียงๆจากขวาไปซ้าย แล้วก็สั่น เหมือนรถตกไหล่ทางแล้วก็วิ่งบนถนนลูกรังน่ะครับ เป้นอยู่พักนึงก็หาย แต่มือผมนี่ซฺ ยังสั่นไม่หยุด กินของว่างไม่อร่อยเลย กลัวมากกกวันนั้นยอมรับเลย ถ่ายรูปมาแต่ละรูปก็เบลอหมดเพราะมือไม่นิ่ง 555555 วันต่อมา น้องที่รู้จักกันบินกลับมา เวล่าไล่ๆกัน แต่คนละสายการบิน อาการเดียวกันเป๊ะ!! สงสัยช่วงนั้นอากาศย่ำแย่ แต่ผ่านมาได้ ก็ดีครับ สนุกดี 

iSSAMEe
21 04 2014

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

จากนครพิงค์เชียงใหม่ถึงหริภุญชัยลำพูน ลานบุญนครล้านนา ตอน สายน้ำปิงรินไหล รวมใจถิ่นไทยล้านนา



 เสร็จจากภารกิจไว้พระ เอาบุญ ก็ถึงภารกิจป๊งๆชึ่งครับ นั่นคือการเล่นน้ำ คูเมืองเชียงใหม่ แม้ว่าวันนี้จะเป็นเพียงวันที่ 12 เมษา แต่ก็เริ่มมีพี่น้องชาวเหนืออกมาเล่นน้ำกันมั่งแล้ว (แต่น้อยมากไม่สนุกหรอกครับ ต้อง 13-15 อันนั้นแซ่บจริง) จากลำพูนมาเชียงใหม่ ใช้ได้ สามเส้นทางที่ขนานกันครับ คือเส้นต้นยาง อันนี้เส้นดั้งเดิมครับ แล้วก็เส้นที่เลียบทางรถไฟจากลำพูนไปเชียงใหม่ แล้วก็เส้นไฮเวย์ ทั้ง 3 เส้นจะขนานกันนะครับ ผมเลือกใช้เส้นทางไฮเวย์ที่แม้ดูเหมือนจะไกลสุด แต่ใช้เวลาน้อยสุดครับ เนื่องจากถนนใหญ่และพื้นถนนดีกว่าเส้นเลียบทางรถไฟครับ ส่วนเส้นต้นยาง น่าจะทำความเร็วมากไมได้เพราะเป็นถนนสองเลนสวนกันและน่าจะมีเด็กๆคอยสาดน้ำตลอดทาง แต่จริงๆ ผมชอบเส้นต้นยางนะ สวยงามร่มรื่นดี



              มาถึงเชียงใหม่ ผมก็เก็บข้าวเก็บของเช็คอินโรงแรม แล้วนั่งพักอีกซักกำเดียว ก็เดินออกมาหารถไปลงกาดสวนแก้ว ที่นี่เราซื้อซองกันน้ำในราคา 45 บาท(น่าจะเป็นช่วงต้นเทศกาลเลยแพง เพราะเคยซื้อที่สีลม ตอนวันที่ 15 เมษาปีก่อน แค่ 25 บาทเอง) จากนั้นก็เดินจากกาดสวนแก้วไปหน้า รพ เชียงใหม่ราม คูเมืองโซนนี้เริ่มมีคนออกมาเล่นน้ำกันประปราย ผมก็เดินมั่วๆนัวๆไปกะเค้า แล้วก็ได้อาวุธอีก 1 อย่างที่นี่ คือกระป๋องน้ำผูกเชือก เอาไว้ตักน้ำในคูเมืองมาสาดชาวบ้านนั่นเอง 20 บาทครับ ไม่แพง ผมก็ สาดคนนั้นคนี้ไปซักพักช่วง 17.00 จู่ๆก็มีลมแรงๆ แล้วก็ฝนตกลงมาซะงั้นแต่ตอนนั้นยังปรอยๆ อยู่ๆ เพื่อนผมก็ชวนกลับ จริงๆแอบขัดใจนิดนึง สงกรานต์ทั้งทีทำไมต้องกลัวเปียก 555555 จะอะไรนักหนา แค่สายฝยที่พรั่งพรูลงมานั้นเป็นแค่สายน้ำที่พระพิรุณอยากจะร่วมฉลองสงกรานต์กับมวลมนุษย์เท่านั้นเอง ปีที่แล้วที่สีลมยังเล่นกลางฝนเลย แต่เอาวะ เค้าเป็นเจ้าบ้าน พากลับก็ต้องกลับ ... สรุปว่าวันนั้น กลับห้องพักครับ ส่วนเพื่อนผมอาบน้ำอาบท่าแล้วก็กลับลำพูน ส่วนผมเองก็นอนหนาวๆอยู่ในห้องกระทั่งออกไปหาโจ๊กกิน แถวหลัง มช. ซึ่งรสชาติไม่ขอเอ่ยครับ เป็นสิ่งเดียวในทริปนี้ที่ผมรู้สึกติดลบ 555555

 



เช้าวันที่ 13 เมษายน
วันนี้ผมอยากเล่นน้ำมากกก มากถึงมากที่สุด แต่ไม่สามารถเล่นได้ครับ เพราะผมต้องเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม และผมได้ถามว่า ถ้าผมจะฝากของได้มั้ย เค้าว่าได้ ผมถามอีกถ้าไปเล่นน้ำมาแล้วมีน้ำให้ล้างมั้ย เค้าบอกไม่มี จบครับ การจะเล่นน้ำสงกรานต์เชียงใหม่ในวันมหาสงกรานต์ของผม จบลงแล้ว อยากจะร้องไห้ ฮ่าๆๆๆ แต่ก็ต้องทำใจครับ เพราะแม้ว่าจะอยากเล่นแค่ไหนก็เล่นไมได้เนื่องจากตอนค่ำผมต้องไปขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพแล้ว ตอนนั้นปลอบใจตัวเองว่า เอาวะ กลับไปเปียกต่อที่ข้าวสารก็ดะ ฮ่าๆๆๆๆ

            แต่ด้วยเวลาที่เหลือเยอะ ผมเลยเลือกที่จะไปไหว้พระที่วัดเจ็ดยอดครับ จำไม่ได้ว่าคนที่เกิดปีอะไรถึงจะต้องไปไหว้วัดเจ็ดยอด แต่ผมก็ไปหมดแหละครับ  (คือมาแบบไม่หาข้อมูลอะไรทั้งสิ้น รู้แต่ว่าใกล้และเดินทางสะดวกก็มา) ก้าวแรกที่เข้าไปในวัด ผมรู้สึกได้ถึงความสุขกาย สุขใจ แม้ที่นี่จะอากาศร้อนมาก แต่ผมก็ยังมีความสุขกับการเดิน และถ่ายรูปกลางแดด และสิ่งที่จะขาดไมได้สำหรับพี่น้องชาวล้านนา คือ การนำท่อนไม้ไปค้ำต้นพิ์ ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญ ที่ชาวล้านนาจะปฏิบัติกันในช่วงนี้ของทุกๆปี และแทบจะทุกวัดในดินแดนล้านนาแห่งนี้ นี่คือสัญลักษณ์ที่บอกว่าศรัทธา และความเชื่อของชาวพุทธล้านนา จะไม่มีวันสูญหาย หากทุกคนยังร่วมค้ำจุนกันแบบนี้ตลอดไป (อันนี้มโนเอง)
เสร็จจากวัดเจ็ดยอด ผมก็เดิน ย้ำว่าเดินนะครับ กลับมาที่ห้างเปิดใหม่แห่งหนึ่งของเชียงใหม่ ที่นี่จัดงานสงกรานต์เช่นกันก็มีวัยรุ่น โดยมากจะเด็กๆ มาเล่นน้ำกันหน้าห้าง มีการแสดง แต่ตอนนั้น ผมผมต้องหาอะไรรองท้องแล้วเพาะหิวมาก ก็เลยไมได้สนใจการแสดงอะไรเท่าไร ทานเสร็จก็เดินกลับมาโรงแรม ตลอดทางที่ผมเดินมา ผมรู้สึกแย่มาก ที่ตัวเองต้องคอยโบกไม้โบกมือกับคนอื่นๆว่าไม่เล่นน้ำ ห้ามสาด ไม่ใช่เพราะพวกเค้าไม่ดีนะครับ ผมเองต่างหากที่ไม่ดี นี่มันเทศกาลนะเห้ย ทำไมห้ามเค้าสาด แต่ให้อภัยผมเถอะครับ เพราะผมต้องไปสนามบิน ต้องเดินทาง น้ำไม่มีล้าง เศร้า
!!!!
กลับมาถึงโรงแรม ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็โทรเรียกรถไปส่งสนามบิน วันนั้นก็ลองหาๆรถที่วิ่งผ่านกองบินได้ เพราะรอบคูเมืองรถไม่สามารถผ่านได้โดยสิ้นเชิง ครั้นจะโบกรถแดงให้ไปทางเส้นไฮเวย์ก็กลัวจะโดนฟันหัวแบะ เพราะไกลเอาเครื่องอยู่ สรุปว่าในที่สุดผมก็มาสนามบินได้โดยผ่านทางกองบิน เป็นอันจบทริปของผมที่ ลำพูน เชียงใหม่ อย่างสุขสมบูรณ์ สิง่ที่ผมได้จากการมาเชียงใหม่ครั้งนี้คือ ไม่ว่าจะมากี่ครั้ง คนเชียงใหม่ คนลำพูนก็ยังน่ารักเสมอ ...
ผมรักพวกคุณจังเลยครับ
^^










 iSSAMEe
21 04 2014




วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557

จากนครพิงค์เชียงใหม่ถึงหริภุญชัยลำพูน ลานบุญนครล้านนา ตอน ลำพูนนครบุญแห่งล้านนา

    

12 เมษายน 2557
วันนี้ผมต้องตื่นแต่เช้าครับ เพราะเพื่อนจะมารับ อาสาพาแอ่วเมืองเก่าเมืองบุญ เมืองหละปูนที่แสนจะน่ารัก ทั้งพี่น้องชาวลำพูน ที่ดูสดใสสวยงาม และก็ตัวเมืองที่แม้จะเป็นช่วงเทศกาลแต่ก็เงียบสงบประดุจลำน้ำกวง ที่ไหลไปข้างหน้าเอื่อยๆและดูเยือกเย็น ทีแรกนัดกัน 9 โมง ครับ แต่ผมเองก็ตื่นสาย เพื่อนก็คงจะสาย เพราะเมื่อคืนวันที่มาถึงเพื่อนพาไป welcome drink ที่ร้านเหล้าในลำพูนมาครับ ฮ่าๆๆๆ
            


              
เอาล่ะกลับมาที่เช้านี้ เพื่อนมารับผมตอน 10.00 ช้าไป 1 ชั่วโมง เพื่อนบอกว่าจะพาผมไปเที่ยวในวัดแถวๆ ลำพูนก่อนแล้วค่อยเข้าเชียงใหม่ในช่วงบ่าย เพื่อไปเล่นน้ำ วัดแรกที่ผมไปเที่ยวก็คือ วัดจามเทวี ที่นี่จะมีเจดีย์ ที่บรรจุพระอัฐิ ของพระนางจามเทวี อดีตกษัตรย์ผู้ครองเมืองลำพูนเอาไว้ รวมถึงเจดีย์เล็กๆอีก 1 องค์ ที่บรรจุอัฐิ ของครูบาศรีวิชัย นักบุญเมืองล้านนา เอาไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ทุกก้าวย่างที่ผมเดินอยู่ผมรู้สึกอบอุ่นร่มรื่นอย่างบอกไม่ถูก รู้ว่าลำพูนคืออีกเมืองหนึ่งที่ผมชักอยากจะมาเที่ยวบ่อยๆ มโนไปถ่ายรูปไปซักพักผมก็เตรียมตัวเดินทางต่อไปยังวัดที่สองครับ นุ่นคือวัดที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของงลำพูน นั่นคือ วัดพระธาตุหริภุญชัยนั่นเอง ...









ก่อนจะเข้าวัดพระธาตุ เพื่อนมัสการพระธาตุหริภุญชัย ผมได้แวะเติมพลัง ด้วยของดีเมืองหละปูนก่อนครับ นั่นคือ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไยนั่นเอง สำหรับใครที่ไปไม่ถูกนะครับ ลองจำทางที่ผมบอกไว้นะครับ หันหลังให้วัดพระธาตุ จะเป็นสะพานไม้ ที่เค้าขายของฝาก ให้เราเดินข้ามสะพานนั้นไปเลยครับ ข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำ แล้วเดินต่อไปอีกหน่อย จะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย อยู่ด้านซ้ายมือ เข้าไปแล้วสั่งแค่เส้นอย่างเดียวครับ ว่าจะทานเส้นอะไร อย่างอื่นเค้าจะทำให้เหมือนกันหมดซึ่งรสชาติ ไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นถึงร้าน recommend แห่งเมืองลำพูนเลย ดาราคนดังมากมาย ก็ทานร้านนี้มาแล้ว



            


       
               เติมพลังเสร็จ ก็ข้ามสะพานกลับไปไหว้พระธาตุหริภุญชัยครับ ที่จริงแล้วผมมาวัดนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้เพราะ นี่เป็นครั้งแรกที่มาแล้ว ฝนไม่ตก ดังนั้น แสงสวยงามเหมาะกับการถ่ายรูปเลยล่ะ อิอิ ผมก็อธิษฐานอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามแบบของผม สถานที่แห่งนี้ยังคงตรึงความรู้สึกผมไว้ได้ทุกครั้งที่มาเยี่ยมเยือน ทุกครั้งที่ผมมา ผมเหมือนได้กำลังใจและความรู้สึกที่ดีกลับไปทุกครั้ง ใครจะเชื่อจากอดีตที่ไม่เคยมาที่นี่เลย พอได้มาครั้งเดียวก็ชอบ และอยากมาอีกบ่อยๆ จนนึกไปว่าอยากพาแม่มาเที่ยวที่นี่ด้วยเช่นกัน อารมณ์แบบว่า เราชอบ เราว่าสวย เราว่าดี เราก็อยากให้แม่มาเห็นสิ่งที่เราว่าดีเช่นกัน


       
         เติมพลังกายแล้ว พลังใจแล้ว ก็ออกเดินทางต่อครับ ทุกครั้งที่ผมต้องจากลาสถานที่แห่งนี้ผมรู้สึกเสียดายอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสกลับมาที่นี่อีกเมื่อไร ...  แต่ไม่เป็นไร ผมเองมั่นใจว่ายังไงต้องได้กลับมาแน่นอน ตอนนี้เราไปที่จุดหมายต่อไปดีกว่า นั่นคือวัดสันป่ายางหลวง วัดนี้ชื่ออาจไม่คุ้น แต่รับรองว่าหากได้มาแล้ว ไม่มีผิดหวังแน่นอน สถาปัตยกรรมภายในสวยงามตรึงตาผมได้พักใหญ่ ก่อนที่ผมจะเริ่มลงมือกดชัตเตอร์แบบรัวๆ เพราะไม่ว่าหันไปทางไหน ผมก็เจอแต่ความสวยงามเข้ามาทักทายผม บอกไม่ถูกจริงๆ ร็แต่ว่าผมต้องมาที่นี่ให้ได้อีกซักครั้ง




iSSAMEe
18 / 04 / 2014