12 เมษายน 2557
วันนี้ผมต้องตื่นแต่เช้าครับ เพราะเพื่อนจะมารับ
อาสาพาแอ่วเมืองเก่าเมืองบุญ เมืองหละปูนที่แสนจะน่ารัก ทั้งพี่น้องชาวลำพูน
ที่ดูสดใสสวยงาม และก็ตัวเมืองที่แม้จะเป็นช่วงเทศกาลแต่ก็เงียบสงบประดุจลำน้ำกวง
ที่ไหลไปข้างหน้าเอื่อยๆและดูเยือกเย็น ทีแรกนัดกัน 9 โมง ครับ แต่ผมเองก็ตื่นสาย
เพื่อนก็คงจะสาย เพราะเมื่อคืนวันที่มาถึงเพื่อนพาไป welcome drink ที่ร้านเหล้าในลำพูนมาครับ
ฮ่าๆๆๆ
เอาล่ะกลับมาที่เช้านี้ เพื่อนมารับผมตอน 10.00 ช้าไป 1 ชั่วโมง เพื่อนบอกว่าจะพาผมไปเที่ยวในวัดแถวๆ ลำพูนก่อนแล้วค่อยเข้าเชียงใหม่ในช่วงบ่าย เพื่อไปเล่นน้ำ วัดแรกที่ผมไปเที่ยวก็คือ วัดจามเทวี ที่นี่จะมีเจดีย์ ที่บรรจุพระอัฐิ ของพระนางจามเทวี อดีตกษัตรย์ผู้ครองเมืองลำพูนเอาไว้ รวมถึงเจดีย์เล็กๆอีก 1 องค์ ที่บรรจุอัฐิ ของครูบาศรีวิชัย นักบุญเมืองล้านนา เอาไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ทุกก้าวย่างที่ผมเดินอยู่ผมรู้สึกอบอุ่นร่มรื่นอย่างบอกไม่ถูก รู้ว่าลำพูนคืออีกเมืองหนึ่งที่ผมชักอยากจะมาเที่ยวบ่อยๆ มโนไปถ่ายรูปไปซักพักผมก็เตรียมตัวเดินทางต่อไปยังวัดที่สองครับ นุ่นคือวัดที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของงลำพูน นั่นคือ วัดพระธาตุหริภุญชัยนั่นเอง ...
ก่อนจะเข้าวัดพระธาตุ เพื่อนมัสการพระธาตุหริภุญชัย ผมได้แวะเติมพลัง
ด้วยของดีเมืองหละปูนก่อนครับ นั่นคือ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไยนั่นเอง
สำหรับใครที่ไปไม่ถูกนะครับ ลองจำทางที่ผมบอกไว้นะครับ หันหลังให้วัดพระธาตุ
จะเป็นสะพานไม้ ที่เค้าขายของฝาก ให้เราเดินข้ามสะพานนั้นไปเลยครับ
ข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำ แล้วเดินต่อไปอีกหน่อย จะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย
อยู่ด้านซ้ายมือ เข้าไปแล้วสั่งแค่เส้นอย่างเดียวครับ ว่าจะทานเส้นอะไร อย่างอื่นเค้าจะทำให้เหมือนกันหมดซึ่งรสชาติ
ไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นถึงร้าน recommend แห่งเมืองลำพูนเลย ดาราคนดังมากมาย
ก็ทานร้านนี้มาแล้ว
เติมพลังเสร็จ ก็ข้ามสะพานกลับไปไหว้พระธาตุหริภุญชัยครับ
ที่จริงแล้วผมมาวัดนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้เพราะ นี่เป็นครั้งแรกที่มาแล้ว
ฝนไม่ตก ดังนั้น แสงสวยงามเหมาะกับการถ่ายรูปเลยล่ะ อิอิ
ผมก็อธิษฐานอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามแบบของผม
สถานที่แห่งนี้ยังคงตรึงความรู้สึกผมไว้ได้ทุกครั้งที่มาเยี่ยมเยือน
ทุกครั้งที่ผมมา ผมเหมือนได้กำลังใจและความรู้สึกที่ดีกลับไปทุกครั้ง
ใครจะเชื่อจากอดีตที่ไม่เคยมาที่นี่เลย พอได้มาครั้งเดียวก็ชอบ และอยากมาอีกบ่อยๆ
จนนึกไปว่าอยากพาแม่มาเที่ยวที่นี่ด้วยเช่นกัน อารมณ์แบบว่า เราชอบ เราว่าสวย
เราว่าดี เราก็อยากให้แม่มาเห็นสิ่งที่เราว่าดีเช่นกัน
เติมพลังกายแล้ว พลังใจแล้ว ก็ออกเดินทางต่อครับ ทุกครั้งที่ผมต้องจากลาสถานที่แห่งนี้ผมรู้สึกเสียดายอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสกลับมาที่นี่อีกเมื่อไร ... แต่ไม่เป็นไร ผมเองมั่นใจว่ายังไงต้องได้กลับมาแน่นอน ตอนนี้เราไปที่จุดหมายต่อไปดีกว่า นั่นคือวัดสันป่ายางหลวง วัดนี้ชื่ออาจไม่คุ้น แต่รับรองว่าหากได้มาแล้ว ไม่มีผิดหวังแน่นอน สถาปัตยกรรมภายในสวยงามตรึงตาผมได้พักใหญ่ ก่อนที่ผมจะเริ่มลงมือกดชัตเตอร์แบบรัวๆ เพราะไม่ว่าหันไปทางไหน ผมก็เจอแต่ความสวยงามเข้ามาทักทายผม บอกไม่ถูกจริงๆ ร็แต่ว่าผมต้องมาที่นี่ให้ได้อีกซักครั้ง
iSSAMEe
18 / 04 / 2014
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น