วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นั่งรถทัวร์นานๆ เพราะจะคืนเวลาให้ตัวเอง คิดอะไรเพลินๆ ยิ่งคิดยิ่งแน่นยิ่งไม่หลุดพ้น



ประตูห้องน้ำ ที่สถานีขนส่งพิดโลก มองผ่านๆแล้วไม่อ่านมันก็ดูสวยดี

หลักฐานการเดินทางในวันนี้ของผม

มาแล้วครับ ยานพาหนะของผม ทราเวลโก้ จากอู่พานทอง

เบาะศรีไทย นั่งสบาย มีหมอนรองศีรษะ แต่ผมว่าไม่เหมาะกับคนสูงนะนี่

ของว่างที่ได้รับแจก

อีกรูปกับทราเวลโก้ชั้นเดียว ของสุโขทัยวินทัวร์ครับ

มีตัว W เป้งๆ แบบนี้ ไม่ผิดชัวร์ รถลุงวินแน่ๆครับ

          พิษณุโลกยานยนต์ ทรงซุปเปอร์ทราเวลโก้จากอู่ธนบุรีครับ คันนี้มาจากเขาค้อ จรวดทางเรียบแห่งเมืองสองแคว       3.30 ชม.     พิดโลก-กทม. แซ่บ!!!มากๆ วินยัง 5.30 ชมแน่ะ

บรรยากาศภายในร้านอาหารครับ

ดีนะครับ ที่ผมไม่เจอวินคันนี้ เก่าเชียว คันนี้เรียกทรงมังกรครับ

สะพานเดชาติวงศ์ครับ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เราจะเริ่มนับ กม.1 ของแม่น้ำเจ้าพระยากันที่นี่นะครับ

สนามบินดอนเมือง ที่เราเพิ่งเช็คอินกันไปเมื่อตอนเช้าครับ

          ไปกรุงเทพ 1 ที่ครับ เสียงผมบอกกับเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วของรถทัวร์บริษัทสุโขทัยวินทัวร์ วันนี้ผมไม่ลังเลที่จะเลือกสุโขทัยวินทัวร์ครับ นับว่าเป็นการนอกใจบริษัทพิษณุโลกยานยนต์อีกแล้ว (เหมือนตอนขามาที่นอกใจแอร์เอเชียนั่นแหละ)  สอบถามราคาและเวลากันเสร็จผมก็ส่งเงินให้พนักงาน 304 บาทเป็นค่าเดินทาง เหลือบดูเวลา ยังพอมีเหลือที่ผมจะเดินเตร็ดเตร่หาอะไรใส่ท้องเป็นมื้อเที่ยง 
          7-11 คือ ที่ฝากท้องของผมในวันนี้ ผมเลือกไส้กรอกพันเบค่อนพร้อมโออิชิ 1 ขวด ไว้กินตอนก่อนรถจะเข้าเทียบ พนักงานบอกให้ผมรอที่ชานชาลา2 ผมก็รอแถวนั้นอย่างว่าง่าย หนึ่งในเหตุผลหลักๆที่เลือกนั่งสุโขทัยวินทัวร์วันนี้เพราะหลังๆมาเห็นว่าเจ้านี้ ประกอบรถใหม่ๆมาวิ่งมากมาย ในใจอยากได้สาย 965 อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-กรุงเทพ แต่เมื่อตั๋วออกมากลับไม่เป็นดังคิด เพราะผมได้รถสาย 912 อุตรดิตถ์ - กรุงเทพ ก็ต้องนั่งลุ้นกันว่าจะเป็นรถหน้าตายังไง 
          เมื่อรถเข้าเทียบ ก็เป็นทรงที่คุ้นเคย ชื่อว่า ทรงทราเวลโก้ โดยพานทองกลการ นั่นเอง ไม่ใหม่เอี่ยมแต่ไม่เก่า ขึ้นรถไปก็แอร์เย็นตามสภาพ มีของว่างแจกให้เป็นขนมปังกรอบแยมสับปะรดที่เราคุ้นเคยตั้งแต่เด็กๆ ขึ้นรถได้ ก็เปิดโทรศัพท์เสียบหูฟังเพลง ซึ่งเพลงแรกที่ random ให้ผมฟังบังเอิญสุดๆ เพราะนั่นคือเพลงลูกทุ่งอาร์สยามคอรัส นามว่า พิษรักพิษณุโลก อัยย่ะ!!! ก่อนหน้านี้ 2 ชั่วโมงเราเพิ่งไปนั่งทำเอมวีอยู่ริมแม่น้ำน่านเสียด้วย ที่สำคัญเนื้อเพลงยังมีท่อนหนึ่งที่บอกว่า "หลวงพ่อช่วยทีเถิดพ่อศรีพุทธชินราช" เออ ช้ำกันไป 
          รถแล่นมาเรื่อยๆ รับผู้โดยสารอีก 1 คนที่ถิ่นเก่าผม ม.นเรศวร แน่นอนว่าผมมีความทรงจำมากมายที่นี่ แม้ว่าวันนี้ นาทีนี้ จะมีความทรงจำใหม่ๆ พยายาม save as เพิ่มเข้ามาก็ตาม หลังจากนั้นผมก็ฟังเพลงๆ ไปเรื่อยๆ อำเภอแล้วอำเภอเล่าที่รถทัวร์วิ่งผ่าน จนเข้าเขตจังหวัดพิจิตรผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ กระทั่งมาตื่นอีกที ตรงสะพานข้ามแม่น้ำปิง ที่ เขต อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ก่อนที่รถจะแวะให้ทานอาหาร โดยนำหางตั๋วไปแลกที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งห้องน้ำสวยงามสะอาดเกินบรรยาย และอาหาร ก็ห่วยเกินบรรยายเช่นกัน -_-"  ที่นี่นอกจากสุโขทัยวินทัวร์แล้ว พิษณุโลกยานยนต์ก็แวะพักรถที่นี่ด้วย แต่พิษณุโลกยานยนต์ไม่ได้กินข้าวที่นี่นะจ๊ะ เค้าแจกบนรถไปแล้วจ้า .... งานนี้ผมเลยเชิดใส่พิษณุโลกยานยนต์แบบงามๆไป 1 ที แต่ก็เสียดายเหมือนกัน เพราะถ้าผมเลือกนั่งคงได้นั่งคันในภาพ 
          ทานข้าวเสร็จก็ออกเดินทางต่อ ณ จุดนี้เอง ที่ความทุกข์เริ่มสาดเข้ามาแบบคลื่นสึนามิ โถ่ๆๆ อีกแล้วเหรอเรา เอาอีกแล้ว ว่าจะไม่ ว่าจะไม่ ก็แพ้ใจตัวเองทุกที อยากร้องไห้ ฟังเพลงไปน้ำตาก็ซึมไป นอนไม่หลับแล้ว ก็เลยนั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆ นั่งคิดๆๆ จนได้คำตอบมากมาย แบบตั้งใจเลยว่ะ ว่าต้องทำให้ได้ สุดท้าย พอหาย พอใจเย็น ผมก็แพ้ทุกที ผมแพ้คุณอีกแล้ว ขอเป็นแบบนี้ต่อละกันนะคนดี ^^ 
          ตอนนั้นก็สงบใจไปได้แปบนึงนะเพราะแบตโทรศัพท์หมด ไม่ต้องรับรู้ ไม่ต้องเห็นอะไร เพียงชั่วครู่ รถก็มาถึงวังน้อย อยุธยา โถ่ เวลาแห่งความสนุกของผมกำลังจะหมดลงแล้วเหรอ คืนนี้ผมจะอยู่ยังไง ใจจะขาดมั้ย คิดไปสะระตะ สุดท้ายก็โอเค พอไหว ไม่ตาย 5555 ยังอยู่ได้ คิดจบรถก็มาถึงหมอชิตพอดี ผมลงที่นี่ก่อนจะขึ้น สาย 170 กลับบ้าน เป็นอันว่าจบทริปที่แสนจะสนุก ครบทุกรสชาติจริงๆ และที่สำคัญก็ยังได้ขอพรให้หลายๆคนด้วย แม้ว่าบางคนจะทำให้ผมเจ็บช้ำมากมาย ผมก็เต็มใจที่จะทำให้ เพราะอยากให้ทุกๆคนรอบตัวมีความสุขเพราะผมนั่นเอง ...


         " มีความสุขเพราะผมมั่งมั้ยนะคนดี ^^"
iSSAMEe
         
ท้องฟ้ายามเย็น ที่ สถานีขนส่งหมอชิต 2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น