วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
The first time with NOK Jib ๆ
04.00 น. วันที่ 6 กรกฎาคม 2556
เสียงนาฬิกาปลุก แซะผมออกจากที่นอน อย่างง่ายดาย
ผมไม่รอช้าแม้แต่นาทีเดียว รีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว อย่างรวดเร็ว พร้อมตอบคำถามที่แม่กำลังสงสัย ว่าไปไหนอีกแล้ว ผมได้แต่ตอบไปเบาๆ ว่าไปต่างจังหวัดแต่ไม่ปริปากแม้แต่น้อยว่าจะไปไหน
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นผมก็แต่งตัวเสร็จ โบกแทกซี่ มุ่งตรงสู่สนามบินดอนเมือง พร้อมปรี่ไปยังหน้าจอว่าวันนี้ DD8400 ของเรา จะอยู่ที่เกทไหน ปรากฎว่า เกท 44 นั่นเอง ^^ และแม้ว่าผมจะมีชั่วโมงบินมาพอสมควรแล้วก็ตาม แต่นี่เป็นชั่วโมงแรกของค่ายเหลืองอย่างนกแอร์ รวมถึงเป็นครั้งแรกบน 737-800 อีกด้วย ดังนั้น อาจมีความรู้สึกตื่นเต้นกว่าทุกครั้ง อันนี้ ก็อย่าว่ากันนะ ...
นั่งรอหน้าเกท 44 ไม่นาน ไฟท์ ปลายทาง อุดรธานี อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช ต่างก็เรียกบอร์ดดิ้งกันไป ส่วนของเราก็รอจนถึง 6.00 น. ก็เริ่มมีประกาศ ซึ่งก็ไม่ทันสิ้นเสียงหวานๆของพนักงานสาววสวย ผู้โดยสารของเที่ยวบิน 8400 ก็ต่อแถวรอหน้าเกท พร้อมบอร์ดดิ้งพาสและบัตรประชาชนกันเรียบร้อย ดูๆแล้ว จะมีผมเพียงคนเดียวที่เห่อพิมพ์บอร์ดดิ้งมาจากที่บ้าน
ผ่านการตรวจเอกสารเพียงอึดใจ ผมก็เข้ามาเหยียบ 737-800 เป็นครั้งแรก ความประทับใจแรกต่อแอร์โอสเตสของนกแอร์คือ ไหว้และยิ้มอย่างจริงใจ สมกับสโลแกนทุกเที่ยวบินมีรอยยิ้มจริงๆ หลังจากนั่งรอซักพัก เครื่องก็ยังไม่ taxi ซะที ทันใดนั้้นก็มีแอร์สาวจากไฟท์อื่นเดินเข้ามาแล้วประกาศว่า รบกวนผู้โดยสารทุกท่าน ตรวจสอบเอกสารด้วยค่ะ เที่ยวบินนี้จะไปพิษณุโลกนะคะ ผมก็เริ่มคิดบางอย่างในใจ และก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ มีผู้โดยสารขึ้นเครื่องผิดลำ!!! คุณป้าแกจะไปตรังครับ แต่มาลำนี้ได้ไงก็ยังไม่รู้ พอตามหาตัวกันเสร็จก็พากันออกไป
Cabin crew slide armed doors and cross check.
เสียงสวรรค์ดังขึ้นทันที่ที่คุณป้าและแอร์ของไฟท์ตรังเดินออกไป เอาล่ะครับ ผมจะได้เทคออฟกับออกแอร์เป็นครั้งแรกแล้ว อ้อลืมบอกว่าวันนี้ผมได้นกสีส้มๆลายปลานีโม่ครับ มีชื่อว่า นกร่าเริง ... กัปตันพาผมไปเทคออฟจากรันเวย์ฝั่งทิศใต้ เพื่อมุ่งหน้าขึ้นภาคเหนือ สู่จังหวัดพิษณุโลก ครับ หลังจากเรารอแอร์เอเชียเทคออฟ 2 ลำ Cabin crew prepared for take off. ถึงตาเราแล้วครับ กัปตันเร่งเครื่องตั้งแต่ยังตั้งลำไม่เสร็จ บอกได้เลยว่ากัปตันนกแอร์วันนั้น ขับได้แซ่บจริงๆครับ ซึ่งหลังจากเทคออฟได้ซักพัก ผมเริ่มรู้สึกว่าการบินระยะเวลาสั้นๆ 30 - 40 นาทีแบบนี้ ถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง ก็บอกได้เลยว่าต่างกับบินไฟท์ไกลๆครับ เพราะผมรู้สึกว่า วันนั้นเราบินด้วยความสุขที่ไม่สูงเท่าเส้นทางอื่นๆ เพราะปกติเราจะได้ถ่ายรูปบนผืนเมฆสีขาวๆ แต่วันนั้นผมไม่เจอเมฆแบบนั้นเลยแม้แต่ก้อนเดียว ความสูงมันประมาณเมฆที่ทำให้เครื่องตกหลุมอากาศอ่ะครับ (แต่โชคดี วันนั้นไม่เจอเมฆที่ทำให้การบินมีอุปสรรคเลย)
ซักพัก น้องแอร์คนสวยก็เริ่มบริการของว่าง แน่นอนว่าเป็นเบเกอรี่จากป้าแอน วันนั้นเป็นขนมปังไส้กรอก ผมไม่ค่อยอยากกินเท่าไรเลยเก็บมากินข้างล่างครับ แหะๆ ระหว่างนั้นก็นั่งชมวิวไป ดูน้องแอร์ไป วันนั้น มี นกไอซ์ นกมิ้ง นกหน่อย(หัวหน้าพนักงาน) และนกมายด์ครับ น่ารักทุกนกเบยยยย!!!! แน่นอนว่าความสุขมักจะอยู่กับเราไม่นานครับ เพราะพี่กัปตันเริ่มกางแฟลบและประกาศว่าจะพาผมแลนดิ้งที่ ท่าอากาศยานพิษณุโลก ไม่ทันสิ้นเสียง Cabin crew prepared for landing. เครื่องก็ ทำมุม final approach พร้อมกางล้อ แล้วร่อนลงสู่รันเวย์สนามบินพิษณุโลก ด้วยความเร็วที่ผมรู้สึกว่ามากกว่าปกติ แต่ผมก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่ามันเร็วกว่าปกติ เพราะตอนนั่งหางแดงมันลงช้ากว่านี้ก็จริง แต่จะเอาเครื่องคนละรุ่นกันมาเทียบกันคงไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ นก 738 ลำนี้ ลงได้นิ่มมากไม่รู้สึกว่ากระแทกเลย แต่ความเร็วถือว่าสูงทีเดียว เบรคกันตัวโก่งเลยล่ะครับ
หลังจากกลับลำที่ปลายรันเวย์ น้องๆแอร์ก็ประกาศขออภัยที่ทำเวลาได้ล่าช้า ผมให้อภัยครับ ไม่ว่ากัน เพราะโดยรวมๆก็ประทับใจนกแอร์มากๆ ทุกเที่ยวบินมีรอยยิ้มจริงๆ
Cabin crew slide disarmed doors and cross check.
เสียงที่บ่งบอกถึงความปลอดภัยดังขึ้น แต่ผมว่ามันได้ยินเร็วเกินไป ผมยังอยากนั่งเครื่องบินเล่นอยู่เลย แต่ไม่ทันแล้ว เมื่อบันไดเข้ามาเทียบ แสงสว่างจากประตูสาดส่องเข้ามา เห็นทีผมต้องโบกมือลาน้องนกเสียแล้ว แต่ไม่เป็นไร เรายังมีเรื่องราวดีๆ รออยู่อีกในเมืองพิษณุโลก และที่สำคัญ ติดใจน้องนกขนาดนี้ ซักวันเราต้องมีโอกาสได้บินด้วยกันอีกแน่นอนครับ .....รักนะนก.....
"หลวงพ่อครับ ผมมาแล้ว มาตามสัญญา แต่ลูกพาความเจ็บปวดมาให้พ่อช่วยลูกด้วยครับ ..."
เด็กบ้าคนหนึ่งอธิษฐานด้วยน้ำตา อย่างเต็มใจ
iSSAMEe
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น